Narong Amorndetphakdee Narong Amorndetphakdee
Preview

เทศกาลกินเจ 2025 อิ่มบุญ อิ่มใจ พร้อมเมนูเจสุดพรีเมียมจาก Shichi

It all begins with an idea.

Shichi เมนูเจ

  เทศกาลกินเจ เป็นประเพณีสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน จัดขึ้นเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ช่วงเดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ในบรรยากาศเทศกาลนี้เราจะเห็น ธงสีเหลืองที่มีตัวอักษร “เจ” ปักอยู่ตามร้านอาหารตลอดทาง และผู้คนจำนวนมากนิยมแต่งกายชุดขาว เพื่อสื่อถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่องตลอดช่วงกินเจ

              เทศกาลกินเจ ปี 2025 ตรงกับวันที่ 21 – 29 ตุลาคม 2025 (ปีพุทธศักราช 2568) รวมทั้งหมด 9 วันเต็ม  โดยบางคนอาจเริ่ม “ล้างท้อง” ล่วงหน้าในคืนวันที่ 20 ตุลาคม เพื่อปรับร่างกายให้คุ้นชินกับการทานอาหารเจก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลจริง ซึ่งก็สามารถทำได้ตามสะดวกของแต่ละคน  เมื่อถึงเทศกาลกินเจจริงๆ ผู้ที่ร่วมถือศีลกินเจก็จะยึดมั่นหลักการงดเนื้อสัตว์และปฏิบัติตนตามธรรมเนียมอย่างเคร่งครัดตลอดทั้ง 9 วันดังกล่าว

หลักการของการกินเจ กินอะไรได้บ้าง และควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง

                อาหารที่ทานได้ในช่วงกินเจ: หลักสำคัญคือ ทุกเมนูต้องปราศจากเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ทุกชนิด ดังนั้นอาหาร เจ ส่วนใหญ่ทำจากพืชล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นผักใบเขียว เห็ด เต้าหู้ ถั่วต่างๆ โปรตีนเกษตร ธัญพืช และวัตถุดิบจากพืชอื่นๆ นำมาปรุงรสให้อร่อยถูกปาก อีกทั้งสามารถทานผลไม้สด น้ำผักผลไม้ หรือเครื่องดื่มชากาแฟที่ไม่ผสมนมเนยได้ตามปกติ  รสชาติอาหารเจมักจะออกจืดหรือกลมกล่อมเป็นหลักเน้นความเป็นธรรมชาติของวัตถุดิบและหลีกเลี่ยงการปรุงจัดจนเกินไปเพื่อรักษาสมดุลสุขภาพ

ของต้องห้ามและควรหลีกเลี่ยง 

สิ่งที่ต้องงดเด็ดขาดในช่วงกินเจ ได้แก่:

             เนื้อสัตว์ทุกชนิดและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อแดง เนื้อขาว ปลา อาหารทะเล รวมถึงไขมันสัตว์ ไข่ นม เนย ชีส เลือด หรือส่วนผสมใดๆ ที่มาจากสัตว์ก็ห้ามบริโภคโดยเด็ดขาด  การปรุงอาหารทุกอย่างจะต้องใช้วัตถุดิบจากพืชเท่านั้น เช่น เปลี่ยนมาใช้น้ำมันพืช น้ำมันถั่วเหลือง แทนน้ำมันหมู เป็นต้น

            ผักที่มีกลิ่นฉุนรุนแรง 5 ชนิด  ตามธรรมเนียมการกินเจจะงดผักกลิ่นแรงเหล่านี้เพราะเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อพลังธาตุในร่างกายและจิตใจ ได้แก่ กระเทียม, หัวหอม รวมทั้งต้นหอมและหอมแดง, หลักเกียว กระเทียมโทนจีน, กุยช่าย, และใบยาสูบ รวมถึงการสูบบุหรี่ด้วย ผักหรือเครื่องเทศอื่นใดที่มีกลิ่นฉุนจัดก็ควรหลีกเลี่ยงตลอดช่วงกินเจเช่นกัน

            อาหารรสจัดทุกประเภท ควรงดอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด หรือเปรี้ยวจัดจนเกินไป เพราะรสจัดเหล่านี้เชื่อว่าจะไปกระตุ้นให้ร่างกายทำงานมากผิดปกติและทำให้จิตใจไม่สงบในระหว่างที่ถือศีล  จึงแนะนำให้ทานอาหารรสอ่อนๆ เพื่อความสบายกายและใจ

          เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของมึนเมา ต้องงดเว้นโดยสิ้นเชิงในช่วง 9 วันของเทศกาล เนื่องจากการดื่มของมึนเมาถือเป็นการผิดศีลและลดทอนความบริสุทธิ์ที่ตั้งใจรักษาไว้ รวมถึงของเสพติดชนิดอื่นๆ ก็ห้ามเช่นเดียวกัน

เมนูเจสุดพิเศษจาก Shichi Japanese Restaurant 

         ทาง Shichi Japanese Restaurant ได้รังสรรค์เมนูเจสุดพรีเมียมขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับเทศกาลกินเจปีนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าได้ทั้งอิ่มบุญและอิ่มอร่อยไปพร้อมกัน ทั้งหมด 7 เมนูด้วยกัน แต่ละจานคัดสรรวัตถุดิบจากพืชที่มีคุณภาพ นำมาปรุงอย่างพิถีพิถันในสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้ได้รสชาติกลมกล่อมเต็มอิ่มไม่แพ้เมนูปกติเลยทีเดียว เมนูพิเศษเหล่านี้มีจำหน่ายที่ ร้าน Shichi ทุกสาขา ระหว่างวันที่ 21 – 29 ตุลาคม 2025 (ช่วงเทศกาลกินเจ) เท่านั้น ใครที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นและอยากลองเมนูเจไม่ซ้ำใคร ห้ามพลาดรายการอาหารดังต่อไปนี้:

        - Inari Roll (โรลเต้าหู้อินาริ) – โรลซูชิที่ใช้เต้าหู้ทอดหวาน (เต้าหู้อินาริ) ห่อข้าวและผักต่างๆ เป็นคำๆ รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ทานเพลิน

        - Avocado Roll (โรลอะโวคาโด) – โรลซูชิไส้อะโวคาโดชิ้นโตกับผักสด สีเขียวสวยน่าทาน ได้ประโยชน์จากไขมันดีของอะโวคาโดเต็มคำ

        - Salad Roll (โรลผักรวม) – โรลสไตล์ฟิวชันที่รวมผักนานาชนิดห่อข้าว ซอสปรุงรสกลมกล่อม ได้รสสดชื่นจากผักสดกรอบ เหมาะกับสายเฮลท์ตี้

         - Sweet Corn Tempura (ข้าวโพดเทมปุระ) – เมนูของทานเล่นทำจากข้าวโพดหวานชุปแป้งทอดกรอบสไตล์เทมปุระ ทานคู่ซอสหรือเกลือเล็กน้อย เคี้ยวเพลินหวานกรอบ 

         - Tofu Nabe (นาเบะเต้าหู้) – หม้อไฟญี่ปุ่น (นาเบะ) สูตรเจที่อุดมไปด้วยผักหลากชนิด เห็ด เต้าหู้ และวุ้นเส้นญี่ปุ่นในน้ำซุปกลมกล่อม เสิร์ฟร้อนๆ ช่วยเติมความอบอุ่นให้ร่างกาย

          - Japanese Veggie Tofu (เต้าหู้ราดซอสรสสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่น) – เมนูเต้าหู้สุดพิเศษ ใช้เต้าหู้โมเมนเนื้อนุ่มนำไปทอดให้ผิวตึงเล็กน้อย แล้วราดด้วยซอสสูตรลับรสสุกี้ยากี้หวานเค็มกลมกล่อมตามแบบฉบับญี่ปุ่น อร่อยทานง่าย

          - Vegetarian Tempura Don (ข้าวเทมปุระผักรวม) – ข้าวด้งหน้าเทมปุระผักรวมทรงเครื่อง มีทั้งเห็ด ฟักทอง แครอท และผักต่างๆ ชุบแป้งทอดกรอบวางบนข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ราดด้วยซอสรสหวานเค็มกำลังดี เป็นจานอิ่มคุ้มที่อร่อยครบเครื่อง

           แต่ละเมนูไม่เพียงปราศจากเนื้อสัตว์ 100% แต่ยังคงรสชาติและหน้าตาน่าทานตามแบบฉบับร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมของ Shichi รับรองว่าคนกินเจจะได้เปิดประสบการณ์ความอร่อยใหม่ๆ ที่ทั้งดีต่อสุขภาพและอิ่มบุญสบายใจแน่นอน

เมนูเจสุดพิเศษจาก Shichi Teppanyaki 

          เมนูเจสไตล์เทปันยากิ 3 รายการจาก Shichi Teppanyaki ที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์แบบญี่ปุ่นเข้ากับวัตถุดิบสายเจอย่างลงตัว จำหน่ายเฉพาะวันที่ 21 – 29 ต.ค. 2025 ที่ร้าน Shichi Teppanyaki 

           ทางฝั่งร้าน Shichi Teppanyaki ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอาหารญี่ปุ่นกระทะร้อนและเมนูเนื้อย่างสไตล์เทปันยากิ ก็ไม่พลาดที่จะร่วมต้อนรับเทศกาลกินเจปีนี้เช่นกัน โดยได้คิดค้น เมนูเจสูตรพิเศษ 3 รายการ ที่ทั้งอร่อยและไม่เหมือนใคร มาเอาใจคนรักสุขภาพสายบุญในช่วงเทศกาลโดยเฉพาะ ทุกเมนูยังคงคอนเซ็ปต์ความพรีเมียมแบบฉบับ Shichi ไว้อย่างครบถ้วน 

            Tofu Tonkatsu with Truffle Fried Rice (เต้าหู้ทงคัตสึและข้าวผัดทรัฟเฟิล) – เมนูฟิวชันสุดลงตัวที่นำเต้าหู้มาชุบเกล็ดขนมปังทอดแบบทงคัตสึญี่ปุ่น ทอดจนเหลืองกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟคู่กับข้าวผัดเห็ดทรัฟเฟิลหอมๆ เพิ่มความพิเศษด้วยซอสทงคัตสึสูตรเจรสกลมกล่อมเค็มหวาน ลงตัวในจานเดียว

  Hamburg Steak J (แฮมเบิร์กญี่ปุ่นเจ) – สเต็กแฮมเบิร์กสไตล์ญี่ปุ่นที่ดัดแปลงเป็นสูตรเจ ใช้โปรตีนจากพืชและเห็ดมาปรุงเป็นชิ้นแฮมเบิร์กเนื้อนุ่ม ราดซอสเดมิกลาสเจเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมผักเครื่องเคียง จานนี้ให้โปรตีนสูงอิ่มท้องและได้ฟีลเหมือนทานสเต็กญี่ปุ่นแท้ๆ

  Tofu Lava Yaki (เต้าหู้ย่างซอสลาวา) – เมนูสร้างสรรค์ที่นำเต้าหู้เนื้อแน่นมาย่างไฟอ่อนจนได้กลิ่นหอม ราดด้วย “ซอสลาวา” สูตรพิเศษที่มีลักษณะข้นคลั่กเยิ้มบนหน้าเต้าหู้เปรียบเสมือนลาวาไหล ท็อปด้านบนด้วยเห็ดและรากบัวทอดกรอบเพิ่มเท็กซ์เจอร์ กรุ่นอร่อยไปกับซอสเข้มข้นและเต้าหู้ย่างหอมๆ ในทุกคำ

ชวนมาชิมเมนูเจสุดพิเศษที่ Shichi

               เทศกาลกินเจปีนี้ หากใครกำลังมองหาเมนูอาหารเจอร่อยๆ ที่ทั้งได้สุขภาพและได้บรรยากาศมื้ออาหารสุดพิเศษ อย่าลืมแวะมาที่ Shichi Japanese Restaurant หรือ Shichi Teppanyaki สาขาใกล้บ้านของคุณ เพื่อร่วมสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยแบบพรีเมียมในแบบฉบับอาหารญี่ปุ่นที่รังสรรค์มาเพื่อสายบุญเช่นคุณโดยเฉพาะ แต่ละเมนูมีให้บริการเฉพาะช่วงวันที่ 21-29 ตุลาคม 2025 นี้เท่านั้น แล้วมาร่วมอิ่มบุญอิ่มใจไปพร้อมกับลิ้มลองเมนูเจสุดสร้างสรรค์ของ Shichi 



Read More
Narong Amorndetphakdee Narong Amorndetphakdee
Preview

แฮมเบิร์กคืออะไร? ทำไมคนญี่ปุ่นถึงรักเมนูนี้

It all begins with an idea.

Shichi Hamburg

 แฮมเบิร์ก หรือฮัมบากุในภาษาญี่ปุ่น คือสเต็กเนื้อบดรูปทรงกลมแบนที่ปรุงรสและเสิร์ฟแบบฉบับญี่ปุ่น โดยทั่วไปวัตถุดิบหลักของแฮมเบิร์กได้แก่เนื้อสัตว์บดนิยมใช้เนื้อวัว คุณภาพดี หรือบางสูตรผสมเนื้อหมู หอมหัวใหญ่สับละเอียด ไข่ไก่ เกล็ดขนมปัง ช่วยให้เนื้อเกาะตัวและเพิ่มความนุ่ม นำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนแล้วนำไปทอดหรือย่างจนสุกพอดี จากนั้นราดซอสเข้มข้นพร้อมเสิร์ฟ 

              เมนูนี้รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ แทนที่จะประกบในขนมปังเหมือนแฮมเบอร์เกอร์ทั่วไป จึงเป็นคนละชนิดกันโดยสิ้นเชิงด้วยรสชาติเนื้อที่เข้มข้นชุ่มฉ่ำและซอสราดสุดกลมกล่อม แฮมเบิร์กจึงกลายเป็นเมนูขวัญใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หารับประทานได้ตั้งแต่ร้านอาหารครอบครัวไปจนถึงภัตตาคารหรูในญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ประวัติและที่มาของแฮมเบิร์ก

              ต้นกำเนิดของเมนูแฮมเบิร์กสามารถย้อนกลับไปได้ถึงเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ในช่วงศตวรรษที่ 19  ชื่อเมนู “Hamburg” ก็ตั้งตามชื่อเมืองนี้ เนื่องจากในยุคนั้นมีการเรียกสเต็กเนื้อบดปรุงรสว่าเป็นสเต็กแบบฮัมบูร์ก ทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่าแฮมเบิร์กได้รับอิทธิพลมาจากเมนู สเต็กทาร์ทาร์ ซึ่งเป็นเนื้อวัวดิบบดละเอียดผสมเครื่องเทศแล้วโปะไข่แดงดิบไว้ด้านบน  ฟังดูคล้ายกับแฮมเบิร์กที่เสิร์ฟไข่เป็นเครื่องเคียงในเวลาต่อมา อย่างไรก็ดี ต้นตอที่แท้จริงของแฮมเบิร์กยังคงไม่มีข้อสรุปแน่ชัดนัก

               แฮมเบิร์กเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากยุโรปสู่เอเชียเมื่อชาวญี่ปุ่นรับเอาเมนูนี้เข้ามาช่วงปลายยุคเมจิ ประมาณปี ค.ศ. 1905 โดยเรียกว่า “ฮัมบากุ สเต็ก”  หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แฮมเบิร์กยิ่งได้รับความนิยมแพร่หลายในญี่ปุ่น เพราะเป็นอาหารทำง่าย วัตถุดิบหาได้ในท้องถิ่น และอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ จากเมนูที่เคยอยู่ในครัวเรือน ปัจจุบันแฮมเบิร์กกลายเป็นเมนูยอดฮิตที่มีให้ชิมทั่วญี่ปุ่น ทั้งตามร้านอาหารทั่วไป ซูเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อก็ยังมีแฮมเบิร์กแบบสำเร็จรูปวางจำหน่าย 

Shichi Wagyu Hamburg เมนูพรีเมียมเฉพาะสาขา ICONSIAM

                 Shichi Wagyu Hamburg คือเมนูแฮมเบิร์กเนื้อวากิวสูตรพิเศษที่ทางร้าน Shichi สาขา ICONSIAM รังสรรค์ขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ความอร่อยเหนือระดับให้กับลูกค้า เมนูนี้คัดสรรเนื้อวากิวคุณภาพเยี่ยมนำเข้าจากออสเตรเลีย มาบดอย่างละเอียดและปั้นเป็นชิ้นด้วยความพิถีพิถัน ก่อนนำไปย่างบนกระทะจนผิวด้านนอกกรอบเกรียมนิดๆ ขณะที่ด้านในยังคงความนุ่มฉ่ำของเนื้อวากิวเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม 

                  เพิ่มอรรถรสในการรับประทาน ท็อปด้านบนด้วยไข่แดงสด สีส้มทอง และราดด้วยซอสสูตรลับรสเข้มข้นกลมกล่อมพอดี เมื่อนำมาคลุกเคล้ากับเนื้อแฮมเบิร์กและข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ จะได้รสชาติที่กลมกล่อมละมุนลิ้นอย่างลงตัว ความพิเศษทั้งหมดนี้ทำให้ Shichi Wagyu Hamburg เป็นเมนูระดับพรีเมียมที่มีให้ชิม เฉพาะที่สาขา ICONSIAM เท่านั้น ใครเป็นแฟนแฮมเบิร์กหรือรักในการทานเนื้อคุณภาพ ไม่ควรพลาดเมนูนี้เมื่อมาที่ร้านอย่างเด็ดขาด!


Read More
Narong Amorndetphakdee Narong Amorndetphakdee
Preview

Kakigori vs Bingsu ความแตกต่างของน้ำแข็งไสญี่ปุ่นและเกาหลี

It all begins with an idea.

Shichi Kakigori

ทั้งคากิโกริของญี่ปุ่นและบิงซูของเกาหลีต่างก็เป็นขนมหวานน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะเนียนละเอียดที่มีลักษณะเสิร์ฟคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างในรายละเอียดหลายด้าน ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ รสสัมผัส รูปแบบการเสิร์ฟ และวัฒนธรรมการรับประทาน

         คากิโกริ ใช้น้ำแข็งเปล่าที่ทำจากน้ำบริสุทธิ์ล้วนๆ โดยตัวน้ำแข็งจะไม่มีรสชาติในตัวเอง  ขณะที่ บิงซู ใช้น้ำแข็งที่ทำจากนมหรือน้ำผสมนมที่มีความหวานอ่อนๆ อยู่แล้ว ทำให้เกล็ดน้ำแข็งของบิงซูมีรสนมหวานในตัวเองต่างจากคากิโกริ 

         ด้วยความต่างของส่วนผสม บิงซูจึงมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มและแฝงความครีมมี่จากนม เมื่อตักเข้าปากจะรู้สึกละมุนกว่า ส่วนคากิโกริจะให้ความเย็นสดชื่นแบบเบาๆ ของน้ำแข็งใสที่กรอบกว่าเล็กน้อยและละลายไวกว่าในปาก โดยภาพรวมบิงซูมักให้รสชาติที่เข้มข้นหลากหลายจากส่วนผสมหลายอย่าง ในขณะที่คากิโกริจะโดดเด่นที่รสหวานหอมของไซรัปที่ราดลงไป

          คากิโกริ มักเสิร์ฟมาเป็นภูเขาน้ำแข็งกองเล็กๆ ราดไซรัปหรือน้ำหวานกลิ่นต่างๆ จากด้านบนให้ชุ่มและซึมลงไปในเกล็ดน้ำแข็ง เสริมด้วยท็อปปิ้ง เช่น ผลไม้สด วิปครีม ถั่วแดงกวน หรือโมจิ เป็นต้น แตกต่างจาก บิงซู ที่มักเสิร์ฟมาในถ้วยขนาดใหญ่ รูปทรงสูงจากการอัดเรียงชั้นเกล็ดน้ำแข็งสลับกับส่วนผสมที่มีรสหวาน เช่น นมข้นหรือไอศกรีม เพื่อให้กองน้ำแข็งแข็งเป็นรูปทรงมั่นคง แล้วโปะหน้าด้วยท็อปปิ้งปริมาณมากแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นผลไม้หลากชนิด ซีเรียลธัญพืช วิปครีม ไอศกรีม ซอสหวานต่างๆ ชีส หรือเค้กชิ้นเล็กๆ ซึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการใส่ แป้งต๊อก ลงไปเพิ่มความหนึบหนับให้เคี้ยวสนุกด้วยเสมอ 

ภาพ : Senyum Senyum

 คากิโกริ ผูกพันกับวิถีชีวิตคนญี่ปุ่นในฐานะของหวานประจำฤดูร้อน จะเห็นมีขายเป็นจำนวนมากในเทศกาลหน้าร้อนทั่วประเทศญี่ปุ่น สัญลักษณ์ที่บ่งบอกชัดคือธงตัวอักษร “氷” แขวนหน้าร้านตามที่ต่างๆ ว่ามีน้ำแข็งไสขาย และมักเป็นเมนูพิเศษตามร้านคาเฟ่ในช่วงอากาศร้อนเท่านั้น

       อ่านมาถึงตรงนี้แล้วทุกคนคงพอมองออกถึงเสน่ห์และความแตกต่างของคากิโกริกับบิงซูแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสายขนมหวานแบบญี่ปุ่นที่ชอบรสชาติละมุนหวานๆ หรือนิยมทานแบบจัดเต็มสไตล์เกาหลี ก็ล้วนมีเอกลักษณ์น่าลิ้มลองในแบบของตัวเองทั้งคู่ หากใครอยากสัมผัสรสชาติความอร่อยเย็นชื่นใจของ Kakigori ตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศ ขอเชิญแวะมาที่ Shichi Japanese Restaurant เรามี Kakigori ให้เลือกหลากหลายรสชาติ เป็นอีกหนึ่งเมนู Must-Try ของร้านที่ต้องลอง


Read More
Narong Amorndetphakdee Narong Amorndetphakdee
Preview

ปลาทูน่าทานได้หลายส่วนกว่าที่คิด

It all begins with an idea.

Freshly chopped tuna.

หลายคนอาจคุ้นเคยกับซาชิมิ (sashimi) หรือปลาดิบญี่ปุ่นจากปลาแซลมอน แต่รู้หรือไม่ว่าปลาทูน่า หรือ “มากุโระ” (Maguro) ก็เป็นปลาทะเลอีกชนิดที่ได้รับความนิยมในเมนูอาหารญี่ปุ่นไม่แพ้กัน การรับประทานปลาทูน่าแบบปลาดิบหรือซาชิมินั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัว เพราะปลาทูน่าหนึ่งตัวสามารถนำมาปรุงเป็นเมนูซาชิมิได้หลายส่วนกว่าที่คิด โดยแต่ละส่วนของปลามีสีสัน เนื้อสัมผัส และรสชาติที่แตกต่างกัน เพิ่มความหลากหลายและน่าสนใจให้กับประสบการณ์การลิ้มลองซาชิมิของคุณ

ปลาทูน่าหนึ่งตัวสามารถแบ่งออกได้หลายส่วนสำคัญ ซึ่งแต่ละส่วนก็มีลักษณะและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไปทั้งนี้ส่วนหลัก ๆ ของปลาทูน่าที่นิยมนำมาทำซาชิมิหรือซูชิมีดังนี้:

อะคามิ (Akami) เนื้อส่วนกลางลำตัวของปลาที่มีไขมันน้อยที่สุด มีสีแดงเข้ม เนื้อแน่นและรสชาติปลาที่เข้มข้นที่สุด นิยมใช้ทำเป็นหน้าซูชิและซาชิมิ ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่ชอบปลาทูน่ารสเข้มข้นแบบไม่ติดมัน 

ชูโทโร่ (Chutoro) เนื้อส่วนท้องช่วงกลางที่มีไขมันแทรกระดับปานกลาง ให้รสหวานนุ่มละมุนลิ้นจากไขมัน ผสานกับรสเข้มของอะคามิได้อย่างลงตัว ไม่มันเลี่ยนหรือหนักเกินไป ทำให้ชูโทโร่เป็นส่วนที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น เพราะได้ทั้งรสอร่อยและสัมผัสนุ่มกำลังดี 

โอโทโร่ (Otoro) เนื้อส่วนท้องด้านหน้าสุดซึ่งมีไขมันแทรกมากที่สุด สีเนื้อจะออกชมพูอ่อนและมีลายไขมันแทรกชัดเจน ให้รสหวานมันตามธรรมชาติและเนื้อสัมผัสนุ่มละลายในปาก โอโทโร่ถือเป็นส่วนที่หาได้ในปริมาณน้อยที่สุดของปลาทูน่าแต่ละตัว จึงมีราคาแพงที่สุดและเป็นที่ต้องการของคนรักซาชิมิเป็นอย่างมาก 

เนกิโทโร่ (Negitoro) เนื้อปลาทูน่าส่วนที่มีไขมันนำมาสับละเอียดคลุกกับต้นหอมซอย ได้เป็นส่วนผสมหน้าซูชิที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มละมุนและรสหวานมันจากไขมันปลา นิยมใช้ปั้นเป็นมากิหรือเสิร์ฟแบบข้าวห่อสาหร่าย และทำเป็นข้าวหน้าดงบุริ (ข้าวหน้าเนกิโทโร่) ซึ่งเป็นอีกวิธีในการลิ้มรสความอร่อยของปลาทูน่าส่วนโทโร่ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป 

จะเห็นได้ว่าแต่ละส่วนของปลาทูน่านั้นมีความโดดเด่นและชวนลิ้มลองในแบบของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสีแดงเข้มและรสเข้มข้นของอะคามิหรือความมันนุ่มที่แทบละลายในปากของโอโทโร่ก็ตาม หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเริ่มรู้สึกอยากชิมขึ้นมา ที่ Shichi ก็มีเมนูปลาทูน่าสดหลากหลายส่วนให้คุณได้เลือกอิ่มอร่อย พร้อมมอบประสบการณ์ซาชิมิญี่ปุ่นแบบต้นตำรับแท้ ๆ ให้กับคนรักอาหารญี่ปุ่นอย่างคุณจนอยากกลับมาซ้ำอีกครั้งแน่นอน!

Read More
Narong Amorndetphakdee Narong Amorndetphakdee
Preview

Mayura Beef เนื้อวากิวที่เลี้ยงด้วยช็อคโกแลต รสชาติสุดพรีเมียม การันตรีรางวัลแชมป์เปี้ยน

It all begins with an idea.

Shichi Mayura Beef

รู้หรือไม่ว่าในออสเตรเลียมีฟาร์มวัวแห่งหนึ่งที่ เลี้ยงวัวด้วยช็อกโกแลต จริงๆ? ฟาร์มแห่งนี้ชื่อว่า Mayura Station และเนื้อวัวที่ได้หรือ Mayura Beef ได้สร้างตำนานให้วงการวากิวโลกด้วยแนวคิดการเลี้ยงสุดแหวกแนว จนเชฟระดับโลกหลายคนต้องต่อคิวจองเนื้อนี้ข้ามปีกันเลยทีเดียว 

แหล่งที่มาของ Mayura Beef

Mayura Station เป็นฟาร์มวัวที่ตั้งอยู่ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย วิธีการเลี้ยงดูวัวของ Mayura ก็แตกต่างและใส่ใจในทุกรายละเอียด วัวแต่ละตัวที่นี่ไม่ได้ถูกเลี้ยงแบบฟาร์มอุตสาหกรรมทั่วไป หากแต่มี “ประวัติโภชนาการเฉพาะบุคคล” เหมือนนักกีฬาเลยทีเดียว ทางฟาร์มมีนักโภชนาการคอยดูแลและปรับสูตรอาหารให้เหมาะกับวัวแต่ละตัวตลอดช่วงชีวิตการเลี้ยงของมัน เพื่อให้วัวเติบโตแข็งแรงและให้คุณภาพเนื้อดีที่สุด

ชื่อเสียงของ Mayura Beef ในฐานะสุดยอดเนื้อวากิวไม่ได้มาเพียงเพราะแนวคิดแปลกใหม่เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำด้วยรางวัลเกียรติยศมากมายในวงการอาหารระดับโลก เนื้อจากฟาร์ม Mayura Station ครองตำแหน่ง แชมป์การประกวดเนื้อวากิวสายพันธุ์แท้ (Champion of Fullblood Wagyu) ในงานประกวดของสมาคมวากิวแห่งออสเตรเลียหลายสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รางวัล Grand Champion จากการประกวด Wagyu ระดับประเทศในออสเตรเลียที่ทางฟาร์มได้รับมาแล้วถึง 3 ปี ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในวงการวากิวออสเตรเลีย 

หัวใจสำคัญที่ทำให้คนรักเนื้อทั่วโลกหลงใหล Mayura Beef ก็คือ รสชาติและเนื้อสัมผัสอันแสนละมุนลิ้น ที่ไม่มีใครเหมือน จากการเลี้ยงดูด้วยช็อกโกแลตและสูตรอาหารพิเศษดังที่กล่าวมา ทำให้เนื้อ Mayura มี รสชาติหวานละมุนและกลิ่นหอมคล้ายถั่ว (nutty aroma) ฝังอยู่ในไขมันแทรก ราวกับว่ามีเนยถั่วธรรมชาติซ่อนอยู่ในเนื้อ เมื่อนำไปปรุงสุกไขมันจะละลายในปากแผ่ความหอมมันออกมาอย่างโดดเด่น

ลักษณะเนื้อและไขมันแทรก 

เนื้อ Mayura มีลายไขมันแทรกสูงในระดับมาตรฐานสากล (MS 9–12) แต่จะไม่สูงเกินจำเป็นอย่างวากิวญี่ปุ่นบางตัวที่มีไขมันแทรกจนเกือบเป็นสีขาวทั้งชิ้น ดังนั้นเมื่อรับประทาน เนื้อ Mayura จะรู้สึกถึงความนุ่มละมุนและชุ่มฉ่ำแบบวากิว แต่ไม่เลี่ยนจนเกินไป ยังมีเนื้อแดงสลับไขมันอย่างสมดุลทำให้รสชาติกลมกล่อมกำลังดี 

ลิ้มลอง Mayura Beef ที่ Shichi Teppanyaki

หลังจากทำความรู้จักเรื่องราวของเนื้อวากิวระดับโลกอย่าง Mayura Beef กันอย่างละเอียดแล้ว เชื่อว่าหลายท่านคงอยากสัมผัสประสบการณ์ชิมเนื้อสุดพิเศษนี้ด้วยตนเองสักครั้ง โอกาสดีคือคุณไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงออสเตรเลีย เพราะที่ ร้าน Shichi Teppanyaki ของเราพร้อมเสิร์ฟ Mayura Beef นำเข้าแท้ๆ ส่งตรงจากฟาร์ม Mayura Station ให้ทุกท่านได้ลิ้มลองความอร่อยระดับตำนานนี้อย่างใกล้ชิด เชฟผู้เชี่ยวชาญของเราจะปรุงเนื้อ Mayura ต่อหน้าท่านบนเตาปรุงเทปปันยากิสุดพิถีพิถัน เพื่อดึงเอาความหวานหอมและความนุ่มละมุนของเนื้อออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเนื้อระดับฮาร์ดคอร์หรือผู้ที่อยากลองเปิดประสบการณ์ใหม่กับวากิวพรีเมียม เราขอเชิญชวนให้มาสัมผัสรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ Mayura Beef ด้วยตัวคุณเองที่ Shichi Teppanyaki แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมเนื้อวากิวที่ถูกเลี้ยงด้วยช็อกโกแลตจากออสเตรเลียรายนี้ถึงได้ครองใจนักชิมทั่วโลก และกลายเป็นตำนานบทใหม่ของวงการเนื้อระดับโลกอย่างแท้จริง สินค้ามีจำนวนจำกัดเท่านั้น! 

Read More